Gearbox CEO บอกใบ้ถึง Borderlands 4 หลังจากการเปิดตัวภาพยนตร์หายนะ
หลังจากการระเบิดบ็อกซ์ออฟฟิศที่เป็นภาพยนตร์ Borderlands ทาง CEO ของ Gearbox Randy Pitchford ได้ล้อเลียนการพัฒนา Borderlands 4 อีกครั้ง การยืนยันที่ละเอียดอ่อนของการทำงานที่กำลังดำเนินอยู่ในภาคถัดไปนี้เกิดขึ้นท่ามกลางกระแสความผิดหวังของแฟน ๆ กับการแสดงของภาพยนตร์เรื่องนี้ &&&]
Pitchford แสดงความขอบคุณต่อแฟน ๆ โดยเน้นย้ำถึงความกระตือรือร้นอย่างต่อเนื่องของพวกเขาสำหรับเกม Borderlands ซึ่งมากกว่าการต้อนรับภาพยนตร์เรื่องล่าสุดมาก เขากล่าวถึงความพยายามของทีมในการทุ่มเทให้กับภาคต่อไปของแฟรนไชส์ ทำให้แฟนๆ ต่างกระหายที่จะทราบรายละเอียดที่เป็นรูปธรรม การล้อเล่นล่าสุดนี้เป็นไปตามความคิดเห็นก่อนหน้านี้ในการสัมภาษณ์ GamesRadar ที่ Pitchford พูดเป็นนัยถึงโครงการขนาดใหญ่หลายโครงการที่กำลังดำเนินการอยู่ที่ Gearbox ซึ่งบ่งบอกถึงการประกาศที่ใกล้จะเกิดขึ้นเกี่ยวกับชื่อ Borderlands ถัดไปการยืนยันอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับการพัฒนาของ Borderlands 4 มีขึ้นเมื่อต้นปีนี้จากผู้จัดพิมพ์ 2K ซึ่งตรงกับการเข้าซื้อกิจการ Gearbox Entertainment ของ Take-Two Interactive แฟรนไชส์ Borderlands มียอดขายมากกว่า 83 ล้านชุดนับตั้งแต่เปิดตัวในปี 2552 มีประวัติความสำเร็จที่พิสูจน์แล้ว โดย Borderlands 3 ครองตำแหน่งเกมที่ขายเร็วที่สุดของ 2K (19 ล้านชุด) และ Borderlands 2 ครองสถิติยอดขายสูงสุดของบริษัท เกม (มากกว่า 28 ล้านชุด)
การแสดงที่ล้นหลามของภาพยนตร์ Borderlands ส่งผลกระทบอย่างมากต่อการเล่าเรื่องที่อยู่รอบความคิดเห็นของ Pitchford ภาพยนตร์เรื่องนี้เปิดตัวสุดหายนะในช่วงสุดสัปดาห์ โดยทำรายได้เพียง 4 ล้านเหรียญแม้จะเข้าฉายในโรงภาพยนตร์มากกว่า 3,000 แห่ง (รวมถึง IMAX) ตอกย้ำความล้มเหลวในเชิงพาณิชย์และวิกฤต คาดว่าจะขาดงบประมาณ 115 ล้านดอลลาร์ ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้รับการวิจารณ์อย่างน่ารังเกียจและถือเป็นความล้มเหลวครั้งใหญ่ในช่วงฤดูร้อน แม้แต่แฟนตัวยงของแฟรนไชส์ก็ยังแสดงความไม่พอใจ ส่งผลให้เรตติ้ง CinemaScore ต่ำ คำวิพากษ์วิจารณ์อ้างถึงการเชื่อมต่อกับแหล่งข้อมูล ขาดเสน่ห์และอารมณ์ขันที่กำหนดความสำเร็จของเกม บทวิจารณ์รายการหนึ่งเน้นย้ำถึงความพยายามที่เข้าใจผิดในการดึงดูดผู้ชมอายุน้อย ซึ่งท้ายที่สุดก็มอบประสบการณ์ที่ต่ำกว่ามาตรฐาน
Cinematic
ในขณะที่ Gearbox มุ่งเน้นไปที่ภาคต่อไปของซีรีส์ Borderlands การตอบรับที่ไม่ดีของภาพยนตร์เรื่องนี้ทำหน้าที่เป็นเครื่องเตือนใจที่ชัดเจนถึงความท้าทายที่มีอยู่ในการนำวิดีโอเกมยอดนิยมมาสู่หน้าจอขนาดใหญ่ อย่างไรก็ตาม สตูดิโอยังคงมุ่งมั่นที่จะนำเสนอเกมที่ประสบความสำเร็จอีกครั้งให้กับฐานแฟนเกมตัวยง